หลังจากโปรแกรมลดน้ำหนักเชิงพฤติกรรมเป็นเวลา 6 เดือน ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไม่เพียงแต่ลดน้ำหนักได้ 8 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักเริ่มต้นเท่านั้น แต่ยังรายงานว่าอาการของโรคซึมเศร้าดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนการลดลงของไตรกลีเซอไรด์ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด การวิจัยใหม่แสดงให้เห็น ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลของการลดน้ำหนักในบุคคลที่เป็นโรคทางจิตเวช ดร. ลูซี ฟัลคอนบริดจ์ ผู้เขียนนำของการศึกษากล่าวว่า "งานวิจัยนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่ เพราะโดยปกติแล้วบุคคลที่เป็นโรคซึมเศร้ามักไม่รวมอยู่ในการทดลองลดน้ำหนัก เนื่องจากกังวลว่าการลดน้ำหนักอาจทำให้ อารมณ์ ซึมเศร้าแย่ลงได้" “ข้อกังวลเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักฐานเชิงประจักษ์ และการที่ไม่รวมบุคคลที่เป็นโรคซึมเศร้าจากการทดลองลดน้ำหนักทางคลินิกหมายความว่าเราไม่ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับประชากรที่มีความเสี่ยงสูงนี้” การค้นพบล่าสุดชี้ให้เห็นว่าบุคคลที่เป็นโรคซึมเศร้าและเป็นโรคอ้วนสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีนัยสำคัญทางคลินิก และการลดน้ำหนักสามารถลดอาการซึมเศร้าได้ อาสาสมัครที่มีอาการซึมเศร้าและไม่ซึมเศร้าจำนวน 51 คนได้รับคัดเลือกเข้าร่วมการศึกษาเพื่อติดตามโปรแกรมลดน้ำหนักภายใต้การดูแล ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการเปลี่ยนอาหาร ทั้งผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าและไม่เป็นโรคซึมเศร้ามีน้ำหนักลดลงอย่างมาก โดยผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าจะสูญเสียน้ำหนัก 8% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้น เมื่อเทียบกับการสูญเสีย 11% ของผู้ที่ไม่มีอาการซึมเศร้า หลังจาก 6 เดือนในโปรแกรมลดน้ำหนัก กลุ่มตัวอย่างที่มีอาการซึมเศร้าก็มีอาการซึมเศร้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน โดยอ้างอิงจากแบบสอบถาม